Archive for category เสียงตามสาย

หากจะกล่าวถึงสถานที่ๆผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกเราในช่วงวั […]

หากจะกล่าวถึงสถานที่ๆผ่านเข้ามาในชีวิตของพวกเราในช่วงวัยเยาว์ของทุกๆคน คงหนีไม่พ้นโรงเรียน หรือถ้าเรียกให้เป็นทางการนั่นก็คือ สถานศึกษา นั่นเอง ซึ่งแบ่งออกได้เป็น โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือเอกชน สิ่งหนึ่งที่นอกจากสถานศึกษาเหล่านี้จะจัดการเรื่องของการศึกษานั่นก็คือ เรื่องของการบริหารจัดการความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้ที่เข้ามาศึกษาในสถานศึกษานั้นๆ เมื่อมีผู้คนจำนวนมากมาอยู่ร่วมกัน แน่นอนว่าสิ่งที่จะสามารถสื่อสารให้ทุกคนได้ยินและรับข้อความได้ถูกต้องไปในทางเดียวกัน นั่นก็คือ “ระบบเสียง”

ในส่วนของสถานศึกษานั้น น่าจะแบ่งส่วนของระบบเสียงได้ตามการใช้งานนั่นก็คือ ระบบเสียงประกาศโดยรวม ระบบเสียงสำหรับห้องเรียน และ ระบบเสียงสำหรับหอประชุมหรือโรงยิมเนเซียม เดี๋ยวเรามาดูกันทีละเรื่องกันครับ

ระบบเสียงประกาศสำหรับสถานศึกษา

การเลือกลำโพง

ระบบเสียงประกาศภายในสถานศึกษานั้น ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ การสื่อสารเพื่อให้รับรู้กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นภายในสถานศึกษานั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญเสียงต้องไม่ไปรบกวนผู้ที่กำลังเรียนอยู่

ฉะนั้นการออกแบบระบบเสียงประกาศสำหรับสถานศึกษานั้น นอกจากต้องให้เสียงดังครอบคลุมทุกพื้นที่ของสถานศึกษาแล้ว เสียงที่ได้ยินต้องชัดและไม่รบกวนพื้นที่โดยรอบสถานศึกษา บางครั้งสถานศึกษาของเรานั้นอยู่ในเขตชุมชน และหากว่าเราวางระบบเสียงผิดพลาด เสียงจากสถานศึกษาของเรานั้นจะไปรบกวนยังชุมชนข้างเคียง และก็จะก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงโดยไม่จำเป็น

ประการสำคัญที่จะกำหนดให้เสียงอยู่ในพื้นที่ๆต้องการนั้นก็คือ การเลือกลำโพงให้เหมาะสมกับพื้นที่ หากเป็นพื้นที่โล่งแจ้งก็สมควรเลือกลำโพงที่สามารถกระจายเสียงได้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากที่สุดและที่สำคัญต้องกันน้ำกันฝุ่นได้ด้วย

มุมกระจายเสียงของลำโพงจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น บริเวณที่ต้องการประกาศนั้นเป็นพื้นที่ยาวและแคบ เราก็สมควรเลือกมุมกระจายเสียงของลำโพงที่แคบ เพื่อควบคุมการกระจายเสียงไม่ให้ไปสะท้อนกับพื้นผิวผนังด้านข้าง อันจะก่อให้เกิดเสียงสะท้อนหรือเสียงก้องตามมาแล้วจะทำให้เสียงจริงนั้นขาดความคมชัด

อีกอย่างมุมการกระจายเสียงของลำโพงที่แคบทำให้เสียงที่ส่งไปนั้นส่งไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น ความคมชัด ณ จุดที่ไกลที่สุดก็จะคมชัดกว่าลำโพงที่มุมกระจายเสียงกว้าง

จำเป็นต้องแยกโซนประกาศ

เนื่องจากในสถานศึกษานั้นประกอบไปด้วยหลายๆแผนก และหลายๆคณะ หากเราแยกโซนประกาศได้อย่าชัดเจน การบริหากจัดการก็จะยิ่งง่ายมากขึ้น อย่างเช่น หากเราต้องการประกาศข่าวสารเฉพาะให้คณะนิเทศศาสตร์ทราบ เราก็เลือกโซนเฉพาะตึกที่เป็นของคณะนิเทศศาสตร์เท่านั้น เสียงก็จะไม่ไปรบกวนการเรียนการสอนของคณะอื่นๆ

หรือยกตัวอย่างเช่นโรงเรียนประถมหรือมัธยม อาจารย์ผู้สอนติดราชการในคาบของนักเรียนชั้น ม.3/2 ทางโรงเรียนมีข้อมูลอยู่แล้วว่าตอนนี้นักเรียนอยุ๋ที่ห้องไหน ตึกที่เท่าไหร่ ก็สามารถประกาศเฉพาะตึกหรือห้องเรียนนั้นๆได้ ก็จะไม่เกิดความรำคาญต่อผู้อื่นที่กำลังเรียนอยู่
โดยส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนมักจะประกาศเป็นโซนเดียวแล้วได้ยินทั้งโรงเรียน อีกทั้งยังเผื่อแผ่ไปยังชุมชนข้างๆอีกด้วย อันจะเป็นการรบกวนซึ่งกันและกัน


ระบบเสียงหอประชุมและโรงยิมเนเซียม

หอประชุมสถานศึกษานั้น ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมทั้งนักเรียนนักศึกษา ครูอาจารย์เลยก็ว่าได้ และการออกแบบอาคารของหอประชุมนั้นมักจะเหมือนกันเกือบทั้งประเทศที่เป็นโรงเรียนของรัฐบาล และปัญหาที่พบบ่อยมากที่สุดนั่นก็คือ ความก้องของเสียง

เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วอาคารหอประชุมนั้นมักจะออกแบบมาให้ใช้งานอย่างเอนกประสงค์ ทั้งการประชุมและเล่นกีฬาต่างๆ

หากเราใช้วัสดุที่ซับเสียงทั้งหมด เสียงก้องก็จะหายไปแต่ความมีอรรถรสในการเล่นกีฬาก็จะหายไปด้วย ดังนั้นการออกแบบระบบเสียงจึงจำเป็นต้องออกแบบมาให้รองรับการทำงานทั้งหมดที่กล่าวมา

ความดังที่เหมาะสม

แน่นอนว่าเมื่อคนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เสียงพูดคุยก็จะดังเพิ่มขึ้น บวกกับเสียงแอร์หรือพัดลมและระบบระบายอากาศก็ดี เมื่อรวมกันแล้วจะมีเสียงที่ดังมาก อย่างน้อยก็คงมี 90dB เสียงพวกนี้เราเรียกมันว่า Noise Floor หรือเสียงรบกวนพื้นฐานที่เราต้องคำนึงถึงเป็นอับดับแรกๆ ฉะนั้นหากเราจะออกแบบระบบเสียงก็ควรจะต้องให้มีความดังมากกว่าเสียงรบกวนข้างต้นอย่างน้อย 10dB หากเสียงรบกวนมีความดัง 90dB ระบบเสียงของเราก็ควรจะมีความดังไม่น้อยกว่า 100dB

ยิ่งหากเป็นโรงยิมเนเซียมด้วยแล้วเวลาคนเชียร์กีฬามักจะตะโกนเสียงดัง เราก็จำเป็นต้องเผื่อระบบเสียงให้ดังขึ้นไปอีกอย่างน้อยต้องมากกว่า 105dB หากเรารู้อย่างนี้ก็สามารถคำนวนได้ว่าต้องใช้ลำโพงกี่ใบ รุ่นไหน และเพาเวอร์แอมป์ทั้งหมดกี่วัตต์

การเลือกลำโพง

เมื่อหอประชุมมีความก้องของเสียงมาก อย่างแรกเลยก่อนที่เราจะเลือกลำโพงนั่นก็คือ การวัดและวิเคราะห์ห้อง โดยการเก็บตัวอย่างของเสียงในห้องนั้นๆ โดยโปรแกรมวัดเสียง แล้วนำมาจำลองด้วยโปรแกรมออกแบบระบบเสียงเพื่อจะดูค่าต่างๆ เช่น RT60(ค่าความก้องของเสียง), STI (ค่าความคมชัดของเสียง) เพื่อความแม่นยำในการออกแบบและเลือกลำโพงมาใช้งาน หากว่าไม่สามารถที่จะปรับแก้ Acoustic ได้ ซึ่งเป็นไปได้ยากเพราะความหลากหลายในการใช้งานของห้อง

ยิ่งห้องที่มีความก้องของเสียงมากเราก็ควรที่จะเลือกลำโพงที่มีมุมกระจายเสียงที่แคบ เพื่อลดเสียงที่ไปสะท้อนกับผนังด้านต่างๆของเสียง และควรที่จะมีจำนวนลำโพงเยอะมากพอ เพื่อที่จะให้เสียงกระจายได้ทั่วถึงผู้ฟัง โดยไม่ต้องเร่งเสียงลำโพงให้ดังจนเกินไป เพราะหากลำโพงจำนวนน้อยๆ เรายิ่งต้องเร่งเสียงให้ดังขึ้นเพื่อที่จะให้ผู้ฟังด้านหลังนั้นได้ยินเสียงที่ชัดเจน เมื่อเร่งเสียงดังขึ้นปัญหาที่ตามมานั่นก็คือเสียงสะท้อนที่มากขึ้นตามมาด้วย

นี่คือแนวความคิดบางส่วนในการออกแบบระบบเสียงสำหรับสถานศึกษา ในความเป็นจริงแล้วมีรายละเอียดที่เยอะมาก หากมีข้อสงสัยประการใด ติดต่อมาได้ที่ บริษัทมิวสิคสเปซ จำกัด เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการอย่างมืออาชีพ

บริษัทมิวสิคสเปซ เรามีผู้ชำนาญการในการออกแบบติดตั้งระบบเสียงในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานศึกษาต่างๆไว้คอยบริการท่าน
ไขข้อสงสัยพร้อมให้คำปรึกษาอย่างดี ด้วยทีมงานมืออาชีพนะครับ

หมายเหตุ

**กรณี ที่ทางบริษัทได้ดำเนินการออกแบบงานระบบ เสียงในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานศึกษาให้กับหน่วยงานนั้นๆแล้ว ด้วยเหตุผลต่างๆที่ทางบริษัทไม่ได้ทำงานนั้นๆ แต่งานที่ออกมาเป็นระบบเดียวกันกับที่ทางบริษัทกำหนดและออกแบบไว้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าออกแบบงานระบบทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 5% ของมูลค่างานนั้นนั้น**

**ทางบริษัทไม่คิดค่าใช้จ่ายในการออกแบบในกรณีที่ทางบริษัทได้รับทำงานนั้นๆ**

บทความโดย อาจารย์ น้อย (ทรงพล แจ่มแจ้ง) www.liveforsound.com
ผู้ออกแบบระบบ เทคนิคเชี่ยนและเอ็นจิเนียร์ ประจำบริษัทมิวสิคสเปซ


หากมีข้อสงสัยประการใดในการเลือกซื้อ ระบบเสียงในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถานศึกษาต่างๆ หรือระบบเครื่องเสียงห้องประชุม
สามารถขอคำปรึกษาติดต่อมาที่บริษัท Musicspace ยินดีให้บริการปรึกษา พร้อมคำแนะนำ ในการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียง
โทร. 022031821 , 026414744

 

Read More
ทำความรู้จักกับระบบเสียงประกาศ ระบบเสียงประกาศ หรือ ระบ […]

ระบบประกาศเสียงตามสาย_รูปหลัก

ทำความรู้จักกับระบบเสียงประกาศ

ระบบเสียงประกาศ หรือ ระบบกระจายเสียง ที่นิยมเรียกกันว่า PA System หรือ เครื่องเสียงกลางแจ้ง (ย่อมาจาก Public Address System) นั้นสำคัญอย่างไร หลายๆท่านคงรู้จักและคุ้นเคยกับระบบเสียงประกาศกันอยู่บ้าง เพราะเป็นสิ่งที่ถือได้ว่าอยู่ใกล้ตัวเรา เพราะไม่ว่าเราไปเดินที่ไหนในห้าง โรงพยาบาล โรงแรมหรือแม้แต่สถานที่สาธารณะต่างๆ เรามันจะได้ยินเสียงประกาศส่งข้อความต่างๆผ่านระบบเสียงให้เราได้ยินกัน ถามว่าไม่มีได้หรือไม่? ตอบได้เลยว่าจะมีหรือไม่มีก็ได้แต่ด้วยเหตุผลและปัจจัยต่างๆมากมายที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่าเราควรจะต้องติดตั้งระบบเสียงประกาศหรือไม่

อันดับแรกเลยคือ ขนาดของพื้นที่ มีผลต่อการรับรู้ข่าวสาร ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดเล็กเช่นห้องทำงานภายในออฟฟิตเล็กๆที่มีห้องแค่ไม่กี่ห้องและจำนวนชั้นที่ไม่มาก เราก็ไม่จำเป็นต้องมีระบบเสียงประกาศก็ได้เพราะตะโกนเอาก็ได้ยิน แต่ถ้าเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีโซนของพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนแบบนี้ต้องมีระบบเสียงประกาศแน่นอนเพราะเราไม่สามารถสื่อสารได้ได้ทั่วถึง เราเลยต้องมีตัวช่วยกระจายเสียงไม่ว่าจะเป็นการแจ้งข่าวสารหรือการเตือนภัย

อีกทั้งเรายังสามารถแบ่งออกเป็นโซนในการประกาศเพื่อไม่ให้เสียงไปรบกวนพื้นที่อื่นได้อีก ส่วนเราจะออกแบบการทำงานแบบไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเราว่าอยากให้ระบบออกมาเป็นยังไง ประกาศข่าวสารอย่างเดียวหรือมีเพลงเปิดคลอบรรยากาศในระหว่างที่จะประกาศข้อมูลข่าวสารก็ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้มันจะเป็นข้อบ่งบอกถึงชนิดและจำนวนของอุปกรณ์ที่เราจะใช้ในงานนั้นๆ

อุปกรณ์พื้นฐานของระบบเสียงประกาศ

1. ไมค์โครโฟน (Microphone)

ในระบบเสียงประกาศมีไมค์โครโฟนหลักๆอยู่ 2 แบบ คือแบบธรรมดาทั่วไปจะใช้ไมค์โครโฟนแบบตั้งโต๊ะหรือไมค์ธรรมดาทั่วไปก็ได้ และอีกแบบหนึ่งคือไมค์โครโฟนแบบที่สามารถเลือกพื้นที่สำหรับประกาศได้ เพื่อต้องการประกาศเฉพาะบางพื้นที่ทำให้ไม่ไปรบกวนพื้นที่อื่น เราต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานถ้าเราต้องการประกาศรวมทั้งหมดก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้ไมค์โครโฟนแบบเลือกโซนได้

ระบบประกาศเสียงตามสาย_1

2. เครื่องผสมสัญญาณเสียง (Mixer)

สิ่งสำคัญในการเลือกเครื่องผสมสัญญาณคือจำนวนต้นทางของแหล่งกำเนิดเสียงว่ามีเท่าไหร่เราก็สามารถเลือกช่องสัญญาณให้เหมาะสมได้ เครื่องผสมสัญญาณเสียงบางตัวมีระบบขยายในตัวก็สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องซื้อเครื่องขยายเสียงเพิ่มแต่อย่างใด อีกทั้งมีช่องสัญญาณขาออกที่สามารถแบ่งโซนได้เลยโดยไม่ต้องเพิ่มเครื่องเลือกโซนแต่อย่างใด

3. เครื่องขยายเสียง (PA Amplifier)

การเลือกใช้ก็เลือกให้เหมาะสมกับจำนวนวัตต์ของลำโพงที่มีอยู่ในระบบ โดยจำนวนวัตต์ของลำโพงทั้งหมดรวมกันต้องไม่มากกว่าจำนวนวัตต์ของเครื่องขยายเสียง

4. ลำโพง (Speaker)

ในระบบเสียงประกาศนั้นมีลำโพงให้เลือกใช้เยอะแยะมากมายตามรูปแบบการติดตั้ง เช่น ลำโพงชนิดฝังฝ้า ลำโพงแบบตู้ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ลำโพงแบบฮอร์น ถ้าเรารู้ว่าพื้นที่ๆเราจะไปติดตั้งเป็นแบบไหนเราก็จะสามารถเลือกชนิดของลำโพงได้ และลำโพงที่ใช้ในระบบเสียงประกาศก็ยังเป็นลำโพงชนิดพิเศษที่สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ โดยมาตรฐานก็จะแตกต่างกันไปเช่น IP44, IP66 เป็นต้น

รูปแบบการต่อระบบเสียงประกาศเบื้องต้น

diagram_ระบบเสียงประกาศ

เรื่องราวของ “ระบบเสียงประกาศ” นั้นมีอีกมากมาย ควรจะออกแบบระบบเสียงประกาศแบบไหน ให้เหมาะสมกับสถานที่ ควรใช้อุปกรณ์ PA System เครื่องเสียงกลางแจ้ง แบบไหน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บ.มิวสิคสเปซ โทร.02-2031821 02-6414744

หากมีข้อมูลหรือข้อผิดพลาดประการใดสำหรับบทความนี้ต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยครับ

บทความโดย : อาจารย์ น้อย ทรงพล Sound engineer ประจำ Musicspace 
สนใจบทความสาระน่ารู้เกี่ยวกับระบบเสียงดีดีได้ที่ www.liveforsound.com


ท่านสามารถเช็คราคาสินค้า อุปกรณ์ระบบเสียงประกาศ (PA System)
ได้ที่ ศูนย์รวมอุปกรณ์ เครื่องเสียงกลางแจ้ง – www.soundspacethai.com

Read More

โทร. : 02-2031821 , 02-6414744
สายด่วน : 095-9265276 , 086-3114142

หรือส่งข้อความด้านล่างเพื่อติดต่อเราทาง Facebook